ฟุตบอลคลาสสิก ฟุตบอลเป็นกีฬาที่ต้องปะทะ ใช้ความแข็งแกร่งในการต่อสู้แย่งบอล หลายครั้งการเล่นที่เกิดอารมณ์ร่วมก็เกิดการปะทะนอกเกมจนอาจจะมีการแจกใบแดง ลงไม้ลงมือกัน กรณีหนึ่งที่อยู่ในความทรงจำก็คือในนัดชิงชนะเลิศเวิลด์ คัพ 2006 ที่ ซีเนดีน ซีดาน ฟิวส์ขาดใช้หัวโขก มาร์โก มาร์เตราซซี เพราะไม่พอใจที่กองหลังชาวอิตาเลียนพูดจาดูถูกน้องสาวของเขา ผลก็คือ “ซิซู” โดนใบแดงก่อนหมดเวลาในช่วงต่อเวลาพิเศษ 10 นาที หรืออย่างการวิวาทของ 2 กัปตันทีมคนดัง “รอย คีน-พาทริก วิเอร่า” ในอุโมงค์สู่ห้องพักนักเตะเมื่อเดือน ก.พ. 2005 ที่สนามไฮบิวรี่ก็โด่งดังไม่เบา แต่การปะทะของนักเตะทั้งสองฝ่ายจะว่าไปก็เป็นเรื่องปกติในเกมฟุตบอล แต่ก็มีบางกรณีเป็น “สิ่งไม่ปกติ” เกิดขึ้นเช่นกัน นั่นคือนักเตะในทีมเดียวกันทะเลาะวิวาทกันเอง
เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเดือน เม.ย. 2005 ที่สนามเซนต์เจมส์ ปาร์ก นิวคาสเซิล เปิดบ้านรับการมาเยือนของ แอสตัน วิลลา โดยมีแฟนบอลเข้าชมในเกมนี้ถึง 52,306 คน โดยผู้จัดการทีมของ “สาลิกาดง” ในขณะนั้นคือ แกรม ซูเนสส์ สถานการณ์ของเจ้าบ้านไม่ดีเอาเสียเลยเมื่อ สตีเฟน เทย์เลอร์ โดนใบแดงไล่ออกในนาทีที่ 73 แต่ที่เลวร้ายยิ่งไปกว่านั้นเกิดขึ้นในนาทีที่ 82 เมื่อ ลี โบว์เยอร์ และ คีรอน ดายเออร์ สองมิดฟิลด์ของเจ้าถิ่นเกิดทะเลาะ ชกต่อยกันเป็นพัลวัน และโดนใบแดงไล่ออกจากสนามไปทั้งคู่ จบเกมนิวคาสเซิลที่เหลือผู้เล่นในสนามเพียง 8 คนพ่ายทีมเยือนไป 0-3 ประตู เรื่องของเรื่องเริ่มจาก โบว์เยอร์ ฉุนขาดที่ ดายเออร์ ไม่ยอมจ่ายบอลให้เลย จึงเดินเข้าไปโต้เถียงกัน ตามมาด้วยการลงมือท่ามกลางตกตะลึงของผู้เล่นทุกคนในสนาม

“มันเป็นเหตุการณ์ที่ไม่น่าจดจำเอาเสียเลย เป็นช่วงเวลาแห่งความบ้าคลั่ง และทุกคนล้วนแต่เสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น ผมและคีรอน ดายเออร์ เป็นคู่แข่งกันตลอดเวลาในตำแหน่งมิดฟิลด์ตัวทำเกม แต่สิ่งที่เกิดขึ้นไม่ใช่เรื่องส่วนตัวของพวกเรา มันไม่ควรจะเกิดขึ้นเลยจริง ๆ ถ้านิวคาสเซิลเป็นฝ่ายนำไป 3-0 เหตุการณ์เช่นนั้นคงไม่เกิดขึ้น”
โบว์เยอร์ กล่าวย้อนถึงเหตุการณ์ที่เป็นหนึ่งในรอยด่างในอาชีพค้าแข้งของตัวเอง
เหตุการณ์อื้อฉาวดังกล่าวนั้นเกิดขึ้นหลังจากแอสตัน วิลลา นำห่าง 3-0 ทำให้บรรยากาศในทีมตึงเครียด นักเตะมีความมุ่งมั่นจะกอบกู้สถานการณ์ จนเหตุการณ์เลยเถิดไป
“ผมเห็นเขาเดินเข้ามา ตาโปน ดุดัน แกรม ซูเนสส์ ตะโกนจากข้างสนามว่าอย่าทำอย่างนั้น แต่ลีก็ยังเดินเข้ามาหา ผมพยายามยันไหล่เขาเพื่อป้องกันตัวเอง จากนั้นเขาก็เริ่มชกผม มันเหมือนเป็นฉากหนังแบบสโลว์โมชั่นยังไงยังงั้น”
ดายเออร์ เขียนถึงเหตุการณ์ดังกล่าวไว้ในหนังสือชีวประวัติของตัวเองที่วางขายในปี 2018
“ลี เป็นคนมีบุคลิกแบบนั้น แต่ความเป็นจริงก็คือเขาเป็นเพื่อนที่ดี และเรายังคุยกันอยู่เสมอ”
ดายเออร์ ให้สัมภาษณ์กับสกาย สปอร์ตส์ ในปี 2020
นักเตะในสโมสรเดียวกัน เบรกแตก ชกกันในสนามก็นับเป็นความคลาสสิกอย่างหนึ่งเหมือนกัน