
เมื่อเอ่ยชื่อ และศักยภาพ ของนักเตะ ที่มีดีกรีเป็นทั้ง แชมป์โลก แชมป์ยูโร และเล่นในตำแหน่งศูนย์หน้า คงจะไม่ใช่ใครนอกจาก ดาวิด เทรเซเก้ต์ กองหน้าโล้นซ่า นักเตะทีมชาติฝรั่งเศส ที่ครั้งหนึ่งในช่วงยุค 2000 เขาคือ นักเตะที่โด่งดัง และเป็นศูนย์หน้าเบอร์อันดับต้น ๆ ของวงการลูกหนังยุโรป จากการสร้างผลงาน ถล่มประตูทั้งในลีกเอิง สถาปนาฝีเท้า เป็นยอดแข้งให้กับลีกอิตาลี
และลองมาฟังเส้นทางพร้อมกับ ตำนานของ ดาวิด เทรเซเก้ต์ ก่อนที่เจ้าตัวจะก้าวขึ้นมาเป็น ผู้เล่นที่ทรงคุณค่า ของวงการลูกหนังฝรั่งเศส และวงการลูกหนังอิตาลีว่า ชายคนนี้ได้สร้างเรื่องราวพร้อมกับ ฝากผลงาน และความประทับใจไว้อย่างไร ทำไมแฟนบอลจากทั่วโลก โดยเฉพาะแฟนบอลฝรั่งเศส และแฟนบอลอิตาลี ต่างก็ต้องยกนิ้วให้ กองหน้าสายเลือดน้ำหอมรายนี้
David Trezeguet ที่จริงแล้วเจ้าตัวเป็น ลูกครึ่งฝรั่งเศส – อาร์เจนตินา ซึ่งตัวเขาเองสามารถที่จะเลือก ถือสัญชาติใดสัญชาติหนึ่งก็ได้ แต่เพราะว่า เขาได้เกิดที่ประเทศฝรั่งเศส นั่นจึงทำให้ตัวเขาเองเลือกที่จะถือสัญชาติฝรั่งเศส ตามที่ครอบครัวได้แนะนำ แต่สำหรับเส้นทางฟุตบอล ของกองหน้าชาวฝรั่งเศส ไม่ได้เริ่มต้นที่บ้านเกิดเมืองนอน เพราะทางครอบครัว มองถึงรูปแบบการเล่นเกี่ยวกับ บางสายอาชีพว่า เขาควรที่จะเริ่มเล่นฟุตบอล ที่โซนอเมริกาใต้มากกว่า นั่นจึงทำให้ เขาเริ่มที่จะฝึกฟุตบอล และเติบโตในอเมริกาใต้ ก่อนที่จะคัดเลือกตัวเข้าสู่ ทีมเยาวชน Platense ทีมในลีก อาร์เจนตินา ในปี 1994 ด้วยวัยเพียงแค่ 17 ปี
และ 1 ปีเท่านั้นกับ กองหน้าสายเลือดฝรั่งเศส ลูกครึ่งอาร์เจนตินา ภายใต้ต้นสังกัด Platense เจ้าตัวโชว์ ความโดดเด่น ที่มีมากกว่านักเตะคนอื่น ๆ ที่เล่นในตำแหน่งกองหน้า นั่นก็คือ เป็นศูนย์หน้าที่สามารถยิงได้ทั้ง 2 เท้า มีรูปร่างสูงใหญ่ถึง 190 เซนติเมตร และก็คงไม่พลาดสายตาสโมสร ปารีส แซงต์ แชร์กแมง ที่พวกเขาต้องการตัว กองหน้าดาวรุ่งจากลีกอาร์เจนตินา เข้ามาล่าตาข่ายในลีกบ้านเกิด แต่ทว่า การเดินทางก้าวแรกเข้าสู่ลีกเอิง กลับไม่ใช่สโมสร ปารีส แซงต์ แชร์กแมง ที่ได้ลายเซ็นกองหน้าดาวรุ่งรายนี้ ซึ่งในปี 1995 David Trezeguet ได้เซ็นสัญญากับสโมสร โมนาโก

และก้าวแรกกับ นักเตะสายอาชีพ กับลีกชั้นนำในประเทศฝรั่งเศส เส้นทางกับนักเตะสายอาชีพของ David Trezeguet ก็ไม่ได้ราบรื่นอย่างที่คิด เพราะว่าเจ้าตัวเซ็นสัญญาเข้ามาในฐานะ นักเตะฝึกหัดของ โมนาโก และไม่ค่อยได้รับโอกาสลงสนาม แต่ทว่ากุนซือของโมนาโก ผู้ชื่นชอบฝีเท้าของเขาก็พยายามผลักดันผลงาน และปลุกปั้น ตลอดระยะเวลา 2 ปี จนกระทั่งปี 1997 เจ้าตัวก็ซัดไปถึง 18 ประตู หลังจากที่ได้รับโอกาสคงสนามให้กับ โมนาโกที่มากขึ้น
แน่นอนว่า ด้วยผลงานของ David Trezeguet พาทีมโมนาโก จบอันดับ 3 ในปี 1997 และในปีเดียวกัน ก็พาทีมตีตั๋ว ยูฟ่า แชมป์เปี้ยนลีก ได้อีกด้วย และในปีนั้น แฟนบอลฝรั่งเศส ต่างก็รู้จักชื่อของเขา จากผลงานที่ทำได้ดีกับ สโมสรโมนาโก และตลอดระยะเวลา 5 ปี กับการเก็บเกี่ยวประสบการณ์ David Trezeguet ยังมีดีกรีเป็นกองหน้าชุดแชมป์โลกปี 1998 ที่ฝรั่งเศสเป็นเจ้าภาพ
ในปีถัดมา ก็เป็นหนึ่งในนักเตะที่อยู่ในชุดแชมป์ยุโรปปี 2000 เช่นเดียวกัน และประตูที่ตอกย้ำถึงความเก่งกาจของเขา สร้างความประทับใจให้กับ แฟนบอลฝรั่งเศส นั่นก็คือ ประตูชัยในนาทีที่ 103 ในศึกชิงแชมป์ยูโร 2000 ระหว่างฝรั่งเศส -อิตาลี กับการถูกเปลี่ยนลงมาในสนาม ในฐานะผู้เล่นตัวสำรอง ก่อนที่ทั้ง 2 ทีมจะเสมอในเวลา 1 – 1 และถึงช่วงต่อเวลา Golden Gold ตัวเขาเองในฐานะ กองหน้าซุปเปอร์ซัพก็ซัดประตูชัยให้ฝรั่งเศส ชนะ อิตาลี 2 – 1 และคว้าแชมป์ยูโร 2000 ได้สำเร็จ
และการเก็บเกี่ยวประสบการณ์ ในลีกเอิง 5 ปี พร้อมกับโชว์ผลงานในเวทีระดับชาติ กับการคว้าแชมป์ฟุตบอลโลก 1998 และยูโร 2000 David Trezeguet ก็เนื้อหอมขึ้นมาทันที และก็ไม่พลาดที่ ยูเวนตุส ยอดทีมแห่งลีก กัลโซ ซีเรียอา จะเข้ามาขอลายเซ็นกองหน้าสายเลือดน้ำหอม และโมนาโก ก็ไม่สามารถที่จะหยุดยั้งแรงกระเพื่อม กับการเติบโตของกองหน้ารายนี้ได้ นั่นจึงทำให้ในปี 2000 เขาก็ย้ายไปเซ็นสัญญากับ สโมสรยูเวนตุส นั่นคือจุดเริ่มต้น และการเติบโตพร้อมกับ เรื่องราวที่สร้างความประทับใจ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของฝีเท้า และจำนวนประตูของเขาที่ยิงภายใต้เสื้อของ “ม้าลาย”

ซึ่งผลงานของ David Trezeguet ตลอดระยะเวลา 10 ปี ตั้งแต่ปี 2000 จนถึงปี 2010 เจ้าตัวลงสนามให้กับ ยูเวนตุส ไปทั้งหมด 317 นัด และยิงประตูไปได้ถึง 171 ลูก ซึ่งถือว่า เป็นค่าเฉลี่ยที่สูงเป็นอย่างมาก แต่สำหรับเรื่องราวที่สร้างความประทับใจ ก็คงจะเกิดขึ้นในปี 2006 หลังจากที่สโมสรยูเวนตุส ถูกปรับตกชั้นไปเล่นใน ซีรีบี กับข้อหาจ้างวานล้มบอล และแน่นอนว่า David Trezeguet คือ 1 ในนักเตะที่ยืนหยัด และไม่ต้องการที่จะย้ายออกจากทีม เพราะเขาได้ให้สัมภาษณ์ว่า “สโมสรแห่งนี้คือสโมสรที่มอบทุกสิ่งทุก ๆ อย่างให้กับเขา และเมื่อสโมสรเกิดปัญหาตัวเขาเองต้องการที่จะยืนหยัดเพื่อช่วยทีมต่อไป” และเพียงแค่ 1 ฤดูกาล กับการถูกปรับตกชั้นไปเล่นใน ซีรีบี David Trezeguet ยิงไป 15 ประตู พาทีมกลับขึ้นมาอยู่ในลีกสูงสุดอีกครั้ง
และนับตั้งแต่ที่ย้ายเข้ามาเซ็นสัญญากับ สโมสรยูเวนตุส ตั้งแต่ปีแรกจนถึงปีสุดท้าย สิ่งที่แฟนบอลอิตาลีได้เห็นนั่นก็คือ สัญชาตญาณกองหน้าที่มีความคม และเป็นนักเตะที่ยิงได้ 2 เท้า หรือเรียกได้ว่าเป็นนักเตะที่จมูกไว ที่ใช้ร่างกาย สัมผัสทุกส่วนสัมผัสบอลแรก และจบสกอร์ได้ทันที