ฟรันโก บาเรซี เขาเกิดที่เมือง Travagliato ประเทศอิตาลี โดยอยู่ในครอบครัวเดียวกับจูเซ็ปเป้ บาเรซี ที่เป็นพี่ชายของเขา
ในช่วงวัยเด็กเขาดูจะตัวเล็กกว่าเพื่อนร่วมรุ่น แต่ด้วยความชอบในกีฬาฟุตบอล ทำให้เขาพยายามฝึกซ้อนตัวเองอยู่เสมอ แม้ว่าจะถูกปฏิเสธจากสโมสรอินเตอร์มิลาน ฉะนั้นเขาจึงได้กลายมาเป็นนักเตะเยาวชนของสโมสรเอซีมิลาน ปี 1977 ซึ่ง ฟรันโก บาเรซี เป็นเด็กวัย 17 ปีที่มีฟอร์มโดดเด่นอย่างมาก ทำให้ในปี 1978 ถัดมา เขาสามารถขึ้นมาเล่นในทีมชุดใหญ่อย่างรวดเร็ว
ช่วงเวลาที่ต้องพิสูจน์ตนเองของ Franco Baresi ในช่วงเริ่มอาชีพ
เส้นทางของมิลานกับ Franco Baresi ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ เพราะในฤดูกาล 1980 – 81 มิลานต้องตกไปอยู่ในซีรีย์บี ด้วยเรื่องอื้อฉาวของการโกงฟุตบอลในตอนนั้น แต่เขาก็สามารถช่วยทีมสร้างความแข็งแกร่งในเกมรับ จนทำให้สามารถก้าวขึ้นมาเล่นในซีรีย์เอได้อีกครั้ง จนทำให้ในปี 1982 เขาได้ถูกเรียกตัวติดทีมชาติเลยทีเดียว จากนั้น Franco Baresi ก็กลายเป็นกองหลังตัวหลักของมิลานเรื่อยมา
ด้วยการเล่นให้กับทีมเดียวมาตลอด 20 ปี ลงเล่นไปทั้งหมด 532 นัดและยิงไปได้ 16 ประตู ช่วยทีมคว้าแชมป์กัลโช่ ถึง 6 สมัย / กัลโช่บี ในฤดูกาล 1980–81 , 1982–83 / แชมป์ถ้วย Supercoppa Italiana 4 สมัย / ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ในฤดูกาล 1988 – 89 , 1989 – 90 , 1993 – 94 / ยูโรเปี้ยนซูเปอร์คัพ ในปี 1990 , 1994 / แชมป์อินเตอร์คอนติเนนตัลคัพ 1989 และ 1990 สร้างความยิ่งใหญ่กับยักษ์ปีศาจแดงดำอย่างมาก จนกลายมาเป็นนักเตะเกียรติยศของมิลานและลีกอิตาลี
Franco Baresi สร้างมาตรฐานความแข็งแกร่งให้กับทีมชาติอิตาลี
ทีมชาติอิตาลีขึ้นชื่อในเรื่องความแข็งแกร่งอยู่แล้ว ซึ่ง Franco Baresi ถือว่าเป็นผู้เล่นคนสำคัญของทีมชาติในยุคนั้น ที่ประกอบไปด้วยมิลดินี่ ทาสซ็อตติ และ คอสตาคูต้า ส่งผลให้ทีมชาติอิตาลีสามารถคว้าแชมป์โลก 1982 ได้อย่างสวยงาม แม้ว่าในช่วงแรกเขาจะไม่ได้รับการกล่าวถึงมากนัก แต่ในมุมมองของนักฟุตบอลและนักวิเคราะห์ มักจะบอกเสมอว่า Franco Baresi เป็นมาตรฐานที่กองหลังควรจะต้องมี
ตำแหน่ง เล่น Sweeper ในสไตล์การเล่นของ Franco Baresi
ช่วงยุค 70s – 90s กีฬาฟุตบอลจะมีตำแหน่งสุดโดดเด่นที่เรียกว่า Sweeper ซึ่งสไตล์การเล่นของ Franco Baresi สามารถให้นิยมของตำแหน่งนี้ได้ดีที่สุด เพราะเขาคือกองหลังตัวสุดท้ายของทีมตนเอง ที่จะทำหน้าที่ตัดบอลในช่วงจังหวะสุดท้าย สามารถเคลื่อนที่ไปยังฝั่งซ้ายหรือฝั่งขวาได้ตามความเหมาะสม จากนั้นเมื่อตัดบอลได้แล้วเขาก็จะพาบอลขึ้นเกมแนวรุก หากจังหวะส่งบอลผ่านบอลให้กับเพื่อนเพื่อทำประตู ถือว่าเป็นตำแหน่งพิเศษที่ช่วยให้เหมือนกับทีมตนเองมีผู้เล่น 12 คนนั่นเอง
Franco Baresi มีความสามารถครบทั้งหมด เขาอ่านบอลได้ดี สามารถประสานงานเข้ากับทุกตำแหน่งในสนาม ทำให้เมื่อเขาตัดบอลได้มีโอกาสสวนกลับจนสร้างประตูให้กับทีมนั่นเอง ในปัจจุบันเราแทบจะหาผู้เล่นในตำแหน่งนี้ไม่ได้อีกแล้ว
