ไค ฮาแวร์ตซ์ เป็นส่วนเกินที่เชลซีจะคัดออก

ไค ฮาแวร์ตซ์

ไค ฮาแวร์ตซ์ ถึงแม้จะถูกมองเป็นส่วนเกินที่จะตัดออก แต่ทีมยักษ์ใหญ่ในยุโรปกลับยังรุมตอม

ไค ฮาแวร์ตซ์ ย้ายจาก Leverkusen มาอยู่กับ Chelsea เมื่อ 4 ก.ย.2020 ในยุคที่มี Frank Lampard เป็นผู้จัดการทีม โดยมีค่าตัวถึง 72 ล้านปอนด์ และรับค่าเหนื่อยสูงสุดถึงสัปดาห์ละ 150,000 ปอนด์ ซึ่งติดอันดับท็อปเทนของนักเตะของ “สิงโตน้ำเงินคราม”

ขณะที่ Manchester City คว้า 3 แชมป์ในฤดูกาลเดียวไม่ว่าจะเป็นแชมป์ Champions League, Premier League และ FA Cup ส่วน Arsenal ทีมดาวรุ่งพุ่งแรงก็ได้รองแชมป์ ได้สิทธิ์ไปเตะ Champions League ในขณะที่ Manchester United และ Newcastle United ก็ได้ไปเตะ Champions League

ส่วน Liverpool ผลงานต่ำกว่ามาตรฐานของตัวเองคงต้องไปสร้างทีมขึ้นมาใหม่ ลงทุนซื้อนักเตะเพื่อกลับมาแกร่งอีกครั้งในฤดูกาล 2023-24

แต่อีกทีมที่อาการหนักกว่า “หงส์แดง” เสียอีกก็คือ Chelsea ซึ่งต้องจบฤดูกาล 2022-23 ด้วยการได้เพียงอันดับที่ 12 เท่านั้น ลงเล่น 38 นัด เก็บได้เพียง 44 แต้ม ชนะได้เพียง 11 เกม ยิงได้แค่ 38 ประตู เสีย 47 แต้ม

และนี่คือความตกต่ำในยุคที่ Todd Boehly และ Behdad Eghbali สองเจ้าร่วมทีมเข้ามาเทกโอเวอร์สโมสร โดยได้ลงทุนซื้อนักเตะใหม่มาร่วมทีมเป็นจำนวนถึง 600 ล้านปอนด์ โดยเป็นการซื้อนักเตะก่อนที่ฤดูกาล 2022-23 เปิดฉากถึง 13 คน

และในยุคของมหาเศรษฐีชาวอเมริกันมีการใช้กุนซือเปลืองอย่างมาก โดยเริ่มจากปลด Thomas Tuchel พ้นตำแหน่งแล้วแต่งตั้ง Graham Potter เข้ามาคุมทีม แต่กุนซือชาวอังกฤษก็ไม่ตอบโจทย์ โดนปลดจากตำแหน่งเพราะไม่สามารถสร้างผลงานให้กระเตื้องขึ้นได้ จนต้องตั้ง Bruno Salto สตาฟโค้ชชาวสเปนเข้ามารักษาการก่อน จากนั้นจึงไปดึงตัวอดีตลูกหม้ออย่าง Frank Lampard มาคุมทีมจนสิ้นสุดฤดูกาล

ใช้โค้ชฤดูกาลเดียวถึง 4 คนแต่ได้แค่อันดับ 12 ถือว่าน่าผิดหวังสุดสุด และจะต้องมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่

Mauricio Pochettino

ก่อนที่ Mauricio Pochettino จะเข้ามาคุมทีมอย่างเป็นทางการ ได้มีการวางแผนผ่าตัดทีมครั้งใหญ่โดยก่อนจะมีการซื้อใหม่ก็จะต้องมีการ “โละ” คนเก่าออกไปเสียก่อน หนึ่งในนั้นก็คือ Kai Havertz กองหน้าทีมชาติเยอรมนี

สาเหตุที่เขามีค่าตัวแพงก็ไม่ใช่เรื่องน่าประหลาดใจ เพราะเป็นนักเตะฝึกหัดของ “ห้างขายยา” และก้าวขึ้นมาเล่นในทีมชุดใหญ่ โดยตำแหน่งที่เล่นก็คือมิดฟิลด์ตัวรุก โดยมีสถิติลงเล่นใน Bundesliga ทั้งหมด 118 นัด ยิงได้ 36 ประตู และทำอีก 25 แอสซิสต์

ในฤดูกาลแรกของ Havertz ไม่โดดเด่นมากนัก ดูเหมือนว่า Lampard จะไม่รู้ว่าจะจับเขาลงเล่นในตำแหน่งไหนดี ส่วนมากมักจะถูกจับไปยืนเป็นตัวริมเส้นด้านซ้ายหรือขวา

จนกระทั่งเมื่อ Lampard ย้ายออกไปและมี Thomas Tuchel เข้ามาเป็นผู้จัดการทีมแทน ดูเหมือนว่ากุนซือชาวเยอรมนีจะหาความลงตัวให้กับเขาได้มากขึ้น โดยขยับขึ้นไปเล่นในตำแหน่ง False9 หรือกองหน้าตัวหลอก ซึ่งเป็นตำแหน่งเดียวกันกับที่ตอนเขาเล่นให้ “ห้างขายยา”

Havertz กลายเป็นฮีโร่ของแฟนบอล “สิงโตน้ำเงินคราม” เมื่อเป็นคนทำประตูชัยให้ Chelsea เอาชนะ Manchester City 1-0 ประตู คว้าแชมป์ Uefa Champions League ฤดูกาล 2020-21 นอกจากนั้น ยังเป็นคนซัดจุดโทษเป็นประตูชัยช่วยให้ Chelsea เอาชนะ Palmeiras 2-1 ประตู คว้าแชมป์ฟุตบอลสโมสรโลกในปี 2021 ไปครองได้อีก

แต่หลังจาก Tuchel โดนปลดจากตำแหน่ง สถานะของดาวเตะทีมชาติเยอรมันก็ไม่มั่นคงนัก และมักจะถูกเลือกไปยืนในตำแหน่งกองหน้าตัวเป้าซึ่งไม่ใช่ตำแหน่งที่ถนัดของเขา และเมื่อทีมยิงประตูไม่ได้ก็ทำให้เขากลายเป็น “แพะรับบาป”

ฤดูกาล 2022-23 Havertz ลงเล่นทุกรายการรวม 47 นัด ยิงได้ 9 ประตู 1 แอสซิสต์ และหากนับเฉพาะในเกมลีกมีผลงานลงเตะ 35 นัด ยิงได้ 7 ประตู และกลายเป็นนักเตะเบอร์ต้นๆ ที่คาดว่าจะถูกโละออกจากทีม

แต่กลายเป็นว่าเขากลายเป็นนักเตะเนื้อหอมหลายสโมสรอยากได้ตัวเขาไปร่วมทีมมากมาย สโมสรแรกก็คือ Real Madrid ให้ความสนใจอยากได้ตัวเขาไปร่วมทีม โดยถือว่าเป็นอีกทางเลือกที่มองเอาไว้หากการทาบซื้อตัว Harry Kane ไม่ประสบความสำเร็จ

และอีกทีมที่ให้ความสนใจท่ามกลางความประหลาดใจก็คือ Arsenal โดยมองเห็นในคุณค่าของดาวเตะทีมชาติเยอรมนีที่เล่นได้หลากหลายตำแหน่ง เพียงแต่ว่าเป้าหมายอันดับ 1 ของ “ปืนโต” ยังคงเป็น Declan Rice กัปตันทีม West Ham หากได้ Rice ในค่าตัวไม่ถึง 100 ล้านปอนด์ ก็อาจจะพร้อมลงทุนต่อสำหรับ Havertz

อีกสโมสรที่พร้อมจะสอดแทรกก็คือ Bayern Munich ซึ่งสนใจอยากได้ Havertz ไปเติมความเข้มข้นในแดนหน้า ซึ่งก็ไม่แปลกอีกเช่นกันเพราะกุนซือ “เสือใต้” ก็คืออดีตลูกพี่เก่าอย่าง Tuchel นั่นเอง

Bayern Munich อยากได้กองหน้าตัวเป้าหน้ามาเสริมทีม โดยเล็งเอาไว้ที่ Dusan Vlahovic กองหน้าทีมชาติเซอร์เบียของ Juventus และ Kolo Muani กองหน้าของ Eintracht Frankfurt แต่แผนสองก็คือ Havertz ที่น่าจะมีค่าตัวถูกกว่า

Ray Parlour

ไม่ว่าจะยังไง ความเคลื่อนไหวของทีมยักษ์ใหญ่ในยุโรปแสดงให้เห็นว่ายังมองเห็นคุณค่าในตัวของกองหน้าทีมชาติเยอรมันผู้นี้ หากแต่ก็ไม่ใช่ทุกคนที่ประทับใจ Havertz นัก หนึ่งในนั้นก็คือ Ray Parlour อดีตมิดฟิลด์ของ “ปืนโต” ที่มองว่า Mikel Arteta ยังเกาไม่ถูกที่คัน

ผมก็คิดว่า Kai Havertz เป็นนักเตะที่ดีคนหนึ่ง เขาเป็นผู้เล่นในแนวรุกที่สนับสนุนกองหน้าได้ดีมาก มีการเคลื่อนไหวที่ยอดเยี่ยม แต่ปัญหาของ Arsenal ก็คือผู้เล่นที่เข้ามาแล้วยิงประตูได้อย่างต่อเนื่องต่างหาก แต่ดูเหมือนว่า Arteta กับ Edu ชอบเขาอยู่นะ แต่สำหรับผม Havertz ไม่ได้แตกต่างไปจาก Gabriel Jesus และ Gabriel Martinelli เลย ผมคิดอย่างนั้นนะ

Ray Parlour กล่าว

Kai Havertz จะเป็นนักเตะดีที่ยังไม่เปล่งประกายเพราะไม่พบกับสโมสรที่เหมาะสมกับตัวเองหรือไม่ อีกไม่นานคงได้คำตอบ

Scroll to Top