Kevin De Bruyne แมนเชสเตอร์ ซิตี้ สามารถบุกไปยันเสมอเรอัล มาดริด 1-1 ประตู ในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก รอบรองชนะเลิศ นัดแรกที่สนามเบอร์นาบิว ทำให้ยังมีโอกาสที่จะคว้า 3 แชมป์ในรายการนี้ได้อยู่
และคนที่ควรได้รับเครดิตไปมากที่สุดก็คือ Kevin De Bruyne ที่เป็นคนยิงประตูสุดสวยช่วยให้ “เรือใบสีฟ้า” ยังมีโอกาสลุ้นคว้าแชมป์ถ้วยใหญ่สุดของยุโรป และยังได้รับเลือกเป็นแมน ออฟ เดอะ แมตช์ แม้ว่าจะต้องประชันฝีเท้ากับผู้เล่นอย่างลูก้า โมดริช,โทนี่ โครสด้วยก็ตาม
ฤดูกาลนี้กองกลางวัย 31 ลงเล่นในทุกรายการรวม 44 นัด ยิงได้ 10 ประตูกับ 27 แอสซิสต์ และนับเฉพาะในแชมเปี้ยนส์ลีก ลงเล่น 8 นัด ยิงได้ 2 ประตูกับ 5 แอสซิสต์
จะบอกว่า เควิน เดอ บรอยน์ เป็นมิดฟิลด์ที่เจ๋งที่สุดในพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้ก็คงไม่ผิดนัก หากแต่เมื่อมองย้อนกลับไปในอดีต มิดฟิลด์ทีมชาติเบลเยียมเกือบจะได้ย้ายมาเป็นส่วนหนึ่งของทีม อาร์เซนอล ซึ่งขับเคี่ยวแย่งแชมป์พรีเมียร์ลีกอยู่ในขณะนี้
รอย แมสซีย์ ซึ่งเคยทำหน้าที่ผู้ช่วยผู้จัดการทีมของอะคาเดมี “ปืนโต” ในช่วงระหว่างปี 1998-2014 ซึ่งถือเป็นยุคทองของสโมสร เพราะสามารถผลิตนักเตะดาวรุ่งปั้นสู่ทีมชุดใหญ่มากมายไม่ว่าจะเป็น แจ็ค วิลเชียร์,บูกาโย ซาก้า,รีสส์ เนลสัน
มีนักเตะเยาวชนมากมายที่อยากจะเข้ามาอยู่ที่ “เฮลเอนด์” หรือที่ตั้งของอะคาเดมีของอาร์เซนอล ไม่ใช่เฉพาะนักเตะอังกฤษเท่านั้น ยังมีนักเตะต่างชาติอีกมากมายที่เดินทางมาทดสอบฝีเท้า
แมสซีย์ซึ่งปัจจุบันมีอายุ 79 ปีให้สัมภาษณ์ว่ามีเด็กชายคนหนึ่งเคยได้เดินทางมาทดสอบฝีเท้าที่อะคาเดมีของสโมสร เป็นเด็กหนุ่มที่สุภาพ เงียบขรึม และจำได้ว่าเคยเห็นเด็กคนนี้ตอนไปเตะที่เกงค์ในเบลเยียม และแม่ของเด็กชายบอกว่าลูกชายของเธอเป็นแฟนของทีมอาร์เซนอลด้วย
ผมยังจำได้ว่าแม่ของเด็กชายคนนั้นบอกว่า เรากำลังจะเดินทางไปลอนดอนนะ และลูกชายของฉันอยากจะมาขอฝึกกับทีมของคุณจะได้ไหม แล้วผมก็ตอบว่าได้สิ
แมสซีย์กล่าว
เด็กชายคนนั้นก็คือ “เควิน เดอ บรอยน์” นั่นเอง เดอบรอยน์ในวัย 12 ปีมาลอนดอนด้วยความกระตือรือร้น เขาต้องการสร้างความประทับใจให้กับสตาฟของอะคาเดมี และได้ลงไปฝึกซ้อมกับนักเตะอายุรุ่นราวคราวเดียวกัน ซึ่งในจำนวนนั้นก็มีทั้งแจ็ค วิลเชียร์ และ เอ็มมานูเอล ฟริมปง หากแต่ก็ไม่มีการเซ็นสัญญาดึงเด็กชายจากเบลเยียมเข้าร่วมทีมแต่อย่างใด
ตอนนั้นมีผู้เล่นอายุตั้งแต่ 8,9,10 หรือ 12 ปีมาลงซ้อมกับทีมของเรามากมาย แต่ไม่มีใครรู้หรอกว่าหนึ่งในนักเตะเหล่านั้นจะยอดเยี่ยมแค่ไหน หรือจะกลายเป็นซูเปอร์สตาร์ในอนาคตข้างหน้า
แมสซีย์กล่าว
ความจริงแล้วในเวลานั้น เดอบรอยน์ก็ทำได้ดีจนสตาฟในอะคาเดมีให้ความสนใจ แต่ตอนนั้น “ปืนโต”ก็มีทีมที่แข็งแกร่งอยู่แล้ว และสำหรับนักเตะอายุแค่สิบสองเดินทางมาจากเบลเยียม แต่ต้องแข่งขันกับนักเตะเจ้าถิ่นที่ปักหลักอยู่ในทีมมานานแล้วและปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมได้ดีกว่าไม่ใช่เรื่องง่ายเลย
ผมจำได้ว่าบอกกับแม่ของเควินไปว่าเขาทำได้ดีแล้ว และหวังว่าเขาจะมีอนาคตที่ดีในอนาคต
แมสซีย์กล่าว
หลายปีต่อมา รอย แมสซีย์ ได้รับคำบอกกล่าวจากเพื่อนว่าจำเด็กหนุ่มจากเบลเยียมที่เคยมาทดสอบฝีเท้ากับอาร์เซนอลได้ไหม ตอนนี้เขาคือ เควิน เดอ บรอยน์ ที่มีอนาคตไกลมากๆ เส้นทางหลังจากนั้น เดอบรอยน์พบกับช่วงเวลาอันยากลำบาก เขาไม่อยู่ในแผนการสร้างทีมของเชลซีในยุคของโจเซ่ มูรินโญ่ และถูกยืมตัวไปเล่นที่เบรเมน และเซ็นสัญญากับโวล์ฟสบวร์กเมื่อเดือนมกราคม 2014 และในฤดูกาล 2014-15 ยิง 16 ประตูกับ 17 แอสซิสต์
30 สิงหาคม 2015 เป๊ป กวาร์ดิโอลา คว้าตัวมิดฟิลด์ทีมชาติเบลเยียมมาร่วมทีมด้วยค่าตัว 54 ล้านปอนด์ และเป็นหนึ่งในการเซ็นสัญญาคว้านักเตะมาร่วมทีมที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์ของสโมสรอีกด้วย เควิน เดอบรอยน์ ช่วยให้แมนเชสเตอร์ ซิตี้ คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก 4 สมัย แชมป์ลีก คัพ 5 สมัย และแชมป์เอฟเอ คัพ 1 สมัย
