Mario Gomez สุดยอดกองหน้า สัญชาติเยอรมัน ที่เกิดมาเพื่อ เล่นฟุตบอลอย่างแท้จริง เขาทำผลงาน ได้ดีมาก กับสโมสร สตุทการ์ท,บาเยิร์น มิวนิค หรือทีมชาติเยอรมัน มีความครบถ้วน ในด้านของการเป็นกองหน้า ตัวทำประตู แต่กลายเป็นว่า ความเก่งกาจของเขา ไม่ได้ถูกพูดถึงมากเท่าไหร่นัก ฉะนั้นเราขอพาทุกท่าน มาทำความรู้จักกับ Mario Gomez สุดยอดนักเตะคนนี้ให้มากขึ้นกัน
เริ่มต้นกันที่ ชีวิตวัยเด็กของ มาริโอ โกเมซ เขาเกิดที่เมืองรีดลิงเงิน ประเทศเยอรมัน โดยพ่อของเขาเป็นชาวเยอรมัน และแม่เป็นชาวสเปน ในวัยเด็ก เขามักจะใช้เวลาว่าง ในการเล่นฟุตบอล กับเพื่อน จนแม่ต้องออกกฎว่า ลูกต้องทำการบ้านให้เสร็จก่อน จึงจะออกไปเล่นฟุตบอลได้ แต่เมื่อคุณพ่อ มองเห็นถึงความชอบของเขา จึงได้สนับสนุนให้ฝึกซ้อม อย่างจริงจัง ให้เขาฝึกเพาะบอล ยิงลูกบอลให้ตรงจุด ทั้งเท้าซ้าย และเท้าขวา หลายครั้งเขาซ้อม จนลืมกินข้าวไปเลยก็มี เขามีไอดอลเป็น Jay-jay Okacha จากนั้น เมื่ออายุประมาณ 10 ขวบ เขาก็ได้เข้าฝึก กับชุดเยาวชน ของทีมอุนลิงเงิน ต่อด้วยทีมบาทเซาล์เกา และทีมอุล์ม 1846 จากนั้นในปี 2001 ก็ได้ไปฝึกที่ ทีมสตุทการ์ท ตอนนั้นเขามีอายุได้ 16 ปี ความสามารถของ มาริโอ โกเมซ ให้เพิ่มสูงขึ้นอย่างมาก มีพรสวรรค์ในการเลี้ยงลูก เหมือนกับไอดอลของเขา สลับเล่นทั้งสองเท้าได้อย่างคล่องแคล่ว
จากนั้นไม่นาน เมื่อเขาอายุได้ 18 ปี ในปี 2018 ดาวรุ่ง มารีโอ ก็อมเม็ส ก็ถูกจับเซ็นสัญญาขึ้นมาเล่น กับทีมชุดสำรองของสตุทการ์ท เขาสามารถยิงไปได้ถึง 25 ประตู จากการลงเล่น 43 นัด จากการลงเล่นไป 2 ฤดูกาล ทำให้ทีมชุดใหญ่ตัดสินใจ ดึงเขามาร่วมทีม แม้ว่าในปี 2004 – 05 เขาจะยิงได้เพียง 6 ประตู จากการลงเล่น 30 นัด แต่โค้ชยังคงให้โอกาสเขา จนเขาตอบแทนให้ในฤดูกาล 2006 – 07 เพราะเขาสามารถ ยิงประตูได้จนได้รางวัลรองเท้าทองคำ ของลีกเยอรมัน มาริโอ โกเมซ ยังช่วยทีมคว้าแชมป์ลีก มาได้สำเร็จอีกด้วย ในตอนนั้นเองเขาได้แจ้งเกิด ในฐานะกองหน้าดาวรุ่งฝีเท้าดี อย่างเต็มด้วย แต่เขาก็ต้องพบปัญหา อาการบาดเจ็บตั้งแต่อายุยังน้อย อาจจะเป็นเพราะวิธีการเล่นบอลของเขาที่มีความทุ่มเทอย่างเต็มที่
จากนั้นไม่นานในปี 2009 มาริโอ โกเมซ ก็ได้เปิดตัว กับทีมใหญ่อย่าง บาเยิร์น มิวนิค ด้วยค่าตัว 30 – 35 ล้านยูโร ซึ่งถือว่าเป็นสถิติของลีกเยอรมัน ในเวลานั้น เจ้าตัวลงเล่นไป 115 นัด และยิงไปได้ถึง 75 ประตูตลอด 4 ปี จากนั้นก็ได้โอกาส ย้ายมาเล่นให้กับ ฟิออเรนติน่า, ยืมตัวไปทีมเบชิคตัส, โวล์ฟสบวร์ก และกลับมาที่ทีมสตุทการ์ท ในปี 2018
ในบทบาท ทีมชาติ มาริโอ โกเมซ ถูกเรียกติดทีม ตั้งแต่อายุเพียง 17 ปี ลงเล่นครั้งแรกในปี 2007 และสามารถทำประตูได้ในนัดแรก เขาลงเล่นรวม 60 นัดในทุกรายการ และยิงได้ 25 ประตู ซึ่งดูน้อยมาก สำหรับกองหน้าคนเก่งคนนี้ แต่อาจจะเป็นเพราะว่า ตอนนั้นทีมชาติเยอรมันมีกองหน้าหลายคนให้เลือกใช้
สำหรับจุดเด่นของ มาริโอ โกเมซ นั้นเขาถือว่า เป็นกองหน้าธรรมชาติที่มีความครบเครื่อง โดยเฉพาะความสามารถ ในการยิงประตูของเขา เขาเป็นนักเตะที่ยิงเต็มเท้า ยิ่งด้วยความแรง มีความแม่นยำสูง สามารถยิงได้ทั้งลูกโหม่ง หรือลูกจากเท้า นอกจากนั้นเขายังเป็นนักเตะ ที่สามารถยิงได้ทั้งสองเท้า ถือว่าเป็นเรื่องที่นักฟุตบอลหลายคน ชื่นชมเขาเป็นจำนวนมาก เพราะไม่ว่าบอลจะอยู่ในเท้าข้างไหน ก็พร้อมจบสกอร์อยู่เสมอ แม้ว่าจะไม่ได้เป็นกองหน้าที่มีความเร็วสูง แต่ก็มีทักษาพาบอลไปข้างหน้า ได้ไหลลื่น เขาสามารถเก็บบอลไว้กับตัว จนสามารถหาจังหวะในการยิงได้อย่างสวยงาม โดยเฉพาะเมื่อ มาริโอ โกเมซ ได้เล่นในเขตกรอบเขตโทษ มีโอกาสสูงที่จะเปลี่ยนจังหวะนั้น ให้กลายเป็นประตูได้ไม่ยาก อีกหนึ่งนิสัยที่เราเห็นได้อย่างชัดเจนจากเขา เป็นนักเตะที่จะพยายาม ทำทุกอย่างให้ทีมได้ประตู แม้ว่าก่อนหน้าจะเคยยิงมาแล้ว หรือกำลังมีสกอร์ตามอยู่ ถือว่าเป็นต้นแบบของนักเตะ ที่มีความกระหายในชัยชนะอย่างแท้จริง
สำหรับผลงาน ส่วนตัวทั้งหมดของ มาริโอ โกเมซ นอกจากเขาสามารถยิงไปได้ 268 ประตู กับอีก 64 แอสซิสต์จากการลงเล่นไป 479 นัด สามารถคว้าแชมป์ลีกบุนเดสลีกา กับทีมสตุทการ์ท 1 สมัย ในฤดูกาล 2006-07 ต่อด้วยทีม บาเยิร์น มิวนิค 2 สมัย ในฤดูกาล 2009-10 และ 2012-13 พร้อมด้วยแชมป์เดเอฟเบ โพคาล 2 สมัย และ ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก 1 สมัย ชายคนนี้ยังได้รับรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีของลีกเยอรมันในปี 2007 อีกต่างหาก
ในปัจจุบัน มาริโอ โกเมซ ได้แขวนสตั๊ด เล่นให้กับทีมสตุทการ์ท เป็นทีมสุดท้ายในปี 2020 แม้ว่าหลายคนจะมองว่า เขาแขวนสตั๊ดไวเกินไป แต่เขาได้วางแผนว่า ต้องการแขวนสตั๊ดกับทีมแรกที่เขาให้โอกาสเขาได้เล่นฟุตบอล ซึ่งถือว่าเป็นจุดเด่นของกองหน้าคนเก่งคนนี้อยู่แล้ว แต่เชื่อกันว่า เขาดูเป็นนักเตะเก่งที่ไม่ได้รับการยกย่องมากนัก เขาควรจะได้รางวัลส่วนตัวที่มากกว่านี้ หากลองเทียบกับความสามารถของเขา ในฐานะกองหน้าสุดเทพ แต่เชื่อว่าสำหรับแฟนบอลทีมสตุทการ์ท, บาเยิร์น มิวนิค หรือทีมชาติเยอรมัน ต้องหลงรัก และมีความสุขที่เห็นชายคนนี้ ทุกครั้งที่เขาลงสนาม
