โอซิล พีกสุดกับ “ปืนโต” ก่อนลาจากแบบขมขื่น

ไม่ใช่เรื่องน่าประหลาดใจนักที่  โอซิล ประกาศแขวนสตั๊ดในวัย 34

เพราะปัญหาบาดเจ็บรุมเร้ามาตั้งแต่ย้ายมาเล่นในตุรกี และชีวิตขาลงของเขาก็มีมาตั้งแต่ในยุคของ Unai Emery ก่อนจะฟื้นชีวิตช่วงสั้นๆ กับ Mikel Arteta ก่อนจะต้องแยกทางกันไปในที่สุด หากแต่เมื่อมองจากพรสวรรค์ ความสามารถเฉพาะตัวในช่วงเวลาหลายปีที่ผ่านมา เป็นเรื่องน่าเสียดายที่ โอซิล ต้องยุติค้าแข้งลงเสียแล้ว

Arsene Wenger ผู้พามิดฟิลด์ทีมชาติเยอรมันมาอยู่กับ Arsenal ให้สัมภาษณ์ว่า บางที Ozil อาจจะเป็นศิลปินลูกหนัง เป็นอัจฉริยะที่ไม่เป็นที่ต้องการของฟุตบอลสมัยใหม่ไปแล้ว

ในขณะที่ Cristiano Ronaldo ในช่วงรุ่งเรืองสุดขีดกับ Real Madrid บอกว่าไม่มีผู้เล่นคนไหนที่จะรู้ใจเขามากไปกว่า Ozil อีกแล้ว ตอนที่ “ราชันชุดขาว” ตัดสินใจขายดาวเตะทีมชาติเยอรมันจึงทำให้ดาวเตะโปรตุกีสโกรธแบบหัวฟัดหัวเหวี่ยง แต่สำหรับ Ozil แล้วการย้ายมาอยู่กับ “ปืนโต” เป็นหนึ่งในช่วงเวลาที่ดีที่สุดของเขาอย่างแน่นอน

Ozil ย้ายจาก Real Madrid มาอยู่กับ Arsenal เมื่อ 2 ก.ย. 2013 ด้วยค่าตัว 42.5 ล้านปอนด์ โดยเป็นนักเตะที่มีค่าตัวแพงที่สุดของสโมสรในขณะนั้น แต่ผลงานก็ออกมายอดเยี่ยมมาก เขาเป็นเพลย์เมคเกอร์คนสำคัญของทีม เป็นจอมเทคนิค จอมแอสซิสต์ประจำทีม โดยเฉพาะช่วงที่เล่นคู่กับ Alexis Sanchez (2014-18) กลายเป็นการเล่นเข้าขากันอย่างน่าประหลาด

ช่วงเวลาสำคัญอีกช่วงก็คือตอนที่ โอซิล เป็นกำลังสำคัญให้ทีมชาติเยอรมันคว้าแชมป์โลกมาครองใน World Cup 2014 ที่ประเทศบราซิล แต่เริ่มมีบางสิ่งบางอย่างเปลี่ยนแปลงไปเมื่อ Sanchez ย้ายไปอยู่กับ Man Utd เมื่อกลางปี 2018 และ Arsenal ได้ตัดสินใจเสนอสัญญาใหม่ให้ Ozil ในปี 2018 โดยมีอายุสัญญายาวถึง 3 ปี และรับค่าเหนื่อยถึงสัปดาห์ละ 350,000 ปอนด์ ซึ่งจะทำให้เขาอยู่ร่วมทีมไปจนถึงปี 2021 ซึ่งหลายคนเชื่อว่าจะทำให้เขาอยู่ร่วมทีมไปจนกระทั่งแขวนสตั๊ด

ในที่สุดหัวใจของผมก็ได้ตัดสินใจเลือกแล้ว เลือกสิ่งที่อย่างที่พูดมาตลอดว่าผมรู้สึกว่าที่นี่คือบ้าน ผมกระตือรือร้นที่จะประสบความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ในอีก 2-3 ปีต่อจากนี้

Ozil กล่าวหลังเซ็นสัญญาฉบับใหม่

แต่ความจริงก็คือเป็นจุดเริ่มต้นของจุดจบ เมื่อ Wenger จากไป มีสัญญาณไม่ดีเกิดขึ้นหลายอย่าง โดยเฉพาะการเข้ามาของ Unai Emery ทำให้มีความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ แนวทางการเล่นเปลี่ยนไป และ Ozil ก็รับผลกระทบนี้ไปเต็มๆ เพราะกุนซือคนใหม่พูดหลายๆ ครั้งว่า Arsenal จะมีผลงานดีขึ้นกว่านี้แน่นอนหากไม่มี Ozil อยู่ในทีม

ฟอร์มการเล่นของเขายากจะคาดเดาจริงๆ และดูด้อยกว่านักเตะบางคนในทีมด้วย บางเกมทีมของเราก็สามารถเอาชนะได้ไม่มีเขา

Unai Emery กล่าวถึง Ozil

และส่วนหนึ่งก็ต้องยอมรับว่าหลังขยายสัญญาออกไปดาวเตะผู้ประกาศหันหลังให้ทีมชาติเยอรมันมีผลงานแผ่วลงไป เริ่มมีอาการบาดเจ็บบ่อย

เมื่อผลงานของทีมไม่ดี Emery ในฐานะผู้จัดการทีมก็ต้องโดนปลดจากตำแหน่ง และ Mikel Arteta อดีตดาวเตะของ “ปืนโต” ก็เข้ามารับหน้าที่แทน  ดาวเตะชาวสเปนเคยเล่นเคียงข้างกับ Ozil มาก่อนจึงถูกคาดหมายว่าทุกอย่างจะไปได้ดี แต่การไปได้ดีนั้นก็เป็นเพียงระยะสั้นเท่านั้น

ในช่วงที่ไวรัส โควิด-19 ระบาดนั้น สโมสรใน Premiere League ก็ได้รับผลกระทบไปด้วย ทำให้ Arteta เรียกร้องให้นักเตะยอมลดค่าเหนื่อยลงไป แต่เป็น Ozil ที่ออกโรงคัดค้าน ส่งผลทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองคนย่ำแย่ลง

เมื่อฟอร์มการเล่นไม่สอดคล้องกับค่าเหนื่อย Arteta ให้ความสำคัญกับอดีตเพื่อนร่วมทีมลงไปเรื่อยๆ ได้ลงสนามน้อยลง และตัดชื่อออกจากรายชื่อ 25 นักเตะชุดสู้ศึก Premiere League ในฤดูกาล 2020-21 และทำเช่นนั้นอีกในการส่งชื่อลงเตะ Europa League จนในที่สุด “ปืนโต” ยกเลิกสัญญากับอดีตจอมทัพเบอร์ 1 ของทีมเพื่อเปิดทางให้ย้ายไปเล่นในตุรกีกับ Fenerbahce

การเล่นอย่างไม่มีแพสชั่น มีปัญหาบาดเจ็บมาอย่างต่อเนื่องทำให้ โอซิล ไม่สามารถไปต่อได้และตัดสินใจแขวนสตั๊ด แต่ผลงานตลอดระยะเวลาที่ลงเล่นให้ Arsenal ก็ยังอยู่ในความทรงจำของแฟนบอล ด้วยผลงานลงเล่น 254 นัด ยิงได้ 44 ประตู 79 แอสซิสต์ รวมถึงช่วยให้ทีมได้แชมป์เอฟเอ คัพ 4 สมัย

ลาก่อน Mezut Ozil