Premier League ฤดูกาล 2021-22 เป็นฤดูกาลที่ถือว่าเข้มข้นอย่างมาก เพราะต้องตัดสินชี้ชะตาแชมป์กันในนัดสุดท้ายของฤดูกาล ซึ่ง Man City สามารถคว้าแชมป์ไปครองด้วยการแซงเอาชนะ Aston Vila ไป 3-2 ประตูในเกมสุดดราม่า เก็บได้ 93 แต้มมากกว่า Liverpool ไปเพียงแต้มเดียว
และใน Premier League ฤดูกาล 2022-23 ก็ส่อเค้าว่าประวัติศาสตร์อาจจะซ้ำรอยอีกครั้ง เพราะในขณะนี้ Arsenal จะนำเป็นจ่าฝูงมี 74 แต้มจาก 31 นัด หากแต่ “แชมป์เก่า” ก็ตามมาติดๆ ด้วยการเก็บได้ 70 แต้มจาก 30 นัด
ที่สำคัญก็คือ 26 เม.ย.นี้ “เรือใบสีฟ้า” จะเปิด Etihad Stadium รับการมาเยือนของ “ปืนโต” อาจจะเป็นเกมตัดสินแชมป์ในฤดูกาลนี้ได้เลย ถึงตอนนี้จึงยังไม่อาจจะรับประกันได้ชัวร์ว่าการลุ้นแชมป์จะไปตัดสินในนัดสุดท้ายของฤดูกาลหรือไม่
แต่สถานการณ์ของ “ปืนโต” ในฐานะจ่าฝูงก็ยังไม่เลวร้ายนัก เพราะหากว่าสามารถเก็บ 3 แต้มในการเจอกับ Southampton ในวันศุกร์ที่ 21 เม.ย. จะทำให้ทำแต้มสปีดหนีห่างไปได้ก่อน และอาจจะทำให้เล่นไม่กดดันมากนักในเกมที่ Etihad แต่โดยรวมก็ยังถือว่าอยู่ในสถานการณ์ที่เปิดกว้างต่อการลุ้นแชมป์ของทั้งสองทีม
โปรแกรมที่เหลือของ Arsenal
Southampton (H) –21 เม.ย.
Man City (A) –26 เม.ย.
Chelsea (H) – 29 เม.ย.
Newcastle (A) –6 พ.ค.
Brighton (H) – 13 พ.ค.
Nottingham Forest (A) 20 พ.ค.
Wolves (H) – May 28
โปรแกรมที่เหลือของ Man City
Brighton (A) – เลื่อน
Arsenal (H) –26 เม.ย.
Fulham (A) – 30 เม.ย.
West Ham (H) – 3 พ.ค.
Leeds (H) – 6 พ.ค.
Everton (A) – 13 พ.ค.
Chelsea (H) –20 พ.ค.
Brentford (A) – 28 พ.ค.
ความจริงแล้ว Arsenal ควรกุมความได้เปรียบมากกว่านี้ หากแต่สองเกมที่ทำได้เสมอ Liverpool และ West Ham ด้วยสกอร์ 2-2 ทั้งสองนั้นเปรียบได้กับการเปิดทางให้แชมป์เก่าอีกครั้ง
แถมโปรแกรมที่เหลือนอกจากจะต้องเล่นท็อปฟอร์มในเกมที่บุกเยือน Man City แล้ว ยังมีเกมยากรออยู่อีกหลายนัดเหมือนกัน ไม่ว่าจะเป็นการเจอกับ Chelsea, Newcastle and Brighton แต่สำหรับสองนัดสุดท้ายน่าจะเอาชนะได้ทั้ง Nottingham Forest และ Wolves
ส่วน City แน่นอนอยู่แล้วเกมใน Etihad จะต้องเอาชนะ “จ่าฝูง” ให้ได้เพียงสถานเดียวเท่านั้น หากทำได้เกมที่เหลือก็ยังไม่ถือว่าหนักหนาสาหัสเท่าใดนัก แต่มีสองเกมที่ประมาทไม่ได้นั่นคือเกมเจอกับ Chelsea และเกมไปเยือน Everton เพราะทีมหนีตายอย่าง “ทอฟฟี่สีน้ำเงิน” สามารถทำได้ทุกอย่างที่เหนือความคาดหมาย
และเงื่อนไขสำคัญอีกประการก็คือสภาพความล้าของการกรำศึกหนัก เพราะ “เรือใบสีฟ้า” ต้องเจอกับ Bayern Munich ใน Champions League รอบก่อนรองชนะเลิศ นัดที่สอง รวมถึงพบกับ Sheffield United ในรอบรองชนะเลิศ FA Cup
เกมที่เจอกับ Brighton ที่เลื่อนออกไปอาจทำให้เกิดความยุ่งเหยิงเพิ่มขึ้นอีก หากว่า “เรือใบสีฟ้า” ยังได้ไปต่อในบอลถ้วยใหญ่ของยุโรป
Simon Gleave ซึ่งเป็นหัวหน้าหน่วยวิเคราะห์กีฬาของ Gracenote กล่าวว่าก่อนหน้านี้โอกาสคว้าแชมป์ของ Arsenal คือ 50 % แต่หลังจากมีวันที่ 4 เม.ย. โอกาสคว้าแชมป์ลดเหลือเพียง 34 % เท่านั้น ส่วนโอกาสคว้าแชมป์ของ Man City เพิ่มขึ้นไปเป็น 68 %
ในขณะที่ Roy Keane อดีตกัปตันทีม Man Utd ยอมรับว่าเขาอยากเห็น Arsenal เป็นแชมป์ในฤดูกาลนี้ และที่ผ่านมาเล่นได้ยอดเยี่ยมมาก เป้าหมายที่แสดงให้เห็นก็คือการเป็นแชมป์ Premier League มากกว่าสิ่งอื่นใด และหากไม่สามารถคว้าแชมป์ในฤดูกาลนี้คงเป็นเรื่องน่าผิดหวังมาก เพราะแฟนบอลก็ต้องการเห็นความเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น ไม่อยากเห็นทีมเดิมๆ หยิบแชมป์อีกแล้ว
เกมกับ Liverpool และ West Ham มีสัญญาณที่ไม่ดีเลย แต่ Arsenal ก็อยู่ในตำแหน่งที่ยังมีโอกาสอยู่ เพียงเขาต้องตั้งสติให้ได้ และมีสมาธิสักนิด ถ้าหากเขาได้รองแชมป์ผมคิดว่ามันเป็นเรื่องน่าผิดหวังนะ
Roy Keane กล่าว
ดูเหมือนกระแสยังเทแรงเชียร์ไปที่ “ปืนโต” มากกว่าสินะ
