
สถานการณ์ Premier League ในตอนนี้สามารถแบ่งสถานการณ์ออกได้เป็นสามส่วน
Man City แข่งไปแล้ว 34 นัดมี 82 แต้มมากกว่า Arsenal แต้มเดียวแต่แข่งน้อยกว่าหนึ่งนัด หมายความว่า สถานการณ์ ตอนนี้มีม้าเพียงสองตัวที่แย่งกันควบเข้าป้ายเพื่อเป็นแชมป์
ส่วนทีมที่ดิ้นรนหนีตกชั้น ดูท่าแล้ว “นักบุญ” Southampton อาจจะรอดยากหน่อยเพราะมี 24 แต้มจาก 35 นัดอยู่อันดับบ๊วยสุดมีแต้มห่างจาก Leeds และ Leicester ถึง 6 แต้ม ในขณะที่ Everton เก็บ 3 แต้มในเกมล่าสุดหลุดพ้น “เร้ดโซน” ไปแล้ว
ดูแล้วพอจะคาดเดาได้ว่าจะมีทีมไหนร่วงตกชั้นไปบ้าง แต่ที่กลายเป็นปัญหาน่าจะอยู่ที่สองทีมที่ลุ้นติดท็อปโฟร์มากกว่า
Newcastle เล่นเกมในบ้านพลาดท่าพ่าย Arsenal ทำให้สถานการณ์ไม่แน่นอนแม้จะยังอยู่อันดับ 3 ก็ตาม แต่อันดับ 4 อย่าง Manchester United แย่ไปกว่านั้นอีกเพราะพ่ายมา 2 นัดติดต่อ มีแต้มห่างจากอันดับ 5 อย่าง Liverpool แค่แต้มเดียวแต่แข่งน้อยกว่า 1 นัด
จะบอกว่าสถานการณ์ลุ้นบิ๊กโฟร์ในลีกอาจจะต้องวัดกันแบบนัดต่อนัด
Newcastle United
“สาลิกาดง” ถือว่ามาเหนือความคาดหมายอย่างมากในฤดูกาลนี้ Eddie Howe กุนซือพลังหนุ่มสามารถพาทีมมาไกลได้ถึงการลุ้นโควต้า UEFA Champions League แม้ว่าขุมกำลังจะไม่พรั่งพร้อมเหมือน “บิ๊กเนม” ทีมอื่นก็ตาม
อย่างไรก็ตามการพ่าย “ปืนโต” 0-2 คาบ้านตัวเองเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญ หากต้องการลุ้นจบอันดับ 3 ไปจนสิ้นสุดฤดูกาลพวกเขาจำเป็นต้องเรียกความมั่นใจกลับคืนมาให้ได้ และเมื่อมองจากโปรแกรมนัดที่เหลือก็ไม่นับว่าหนักหนานัก เพราะจะได้เจอกับทีมที่ดิ้นหนีตกชั้นอย่าง Leeds และ Leicester และแม้จะไปเยือน Chelsea ก็ไม่ถือว่าหนักหนาอะไรนัก เกมยากที่สุดอาจจะเป็นการเจอกับ Brighton ที่หวังลุ้นไป Champions League ด้วยเหมือนกัน
อัตราความยาก 5/10
Manchester United
ตอนแรกใครก็คิดว่า Erik ten Hag น่าจะพาทีมชิงจบท็อปโฟร์ได้อย่างไม่ยากเย็นนัก แต่พอพ่ายติดต่อกันสองนัดทำให้สถานการณ์ตอนนี้ชักไม่แน่นอนแล้ว กองหลังตัวหลักเจ็บ ผู้รักษาประตูฟอร์มบู่ อะไรก็ย่อมเกิดขึ้นได้ทั้งนั้น
“ผีแดง” อาจจะมีสถานการณ์ไม่ถึงกับยากเย็นอะไรนัก เพราะ 4 นัดที่เหลือจะไปเล่นเกมเหย้าเพียงนัดเดียวโดยจะบุกไปเยือน Bournemouth ส่วนในบ้านอีกสามนัดที่เหลือคือ Wolves, Chelsea และ Fulham ที่ Old Trafford
Man Utd กุมความได้เปรียบไว้เยอะก็จริง แต่พ่ายมาสองนัดติดแล้วโดน “หงส์แดง” หายใจรดต้นคอเป็นอะไรที่กดดันมากจริงๆ
อัตราความยาก 5/10
Liverpool
“หงส์แดง” เหลือเกมเตะอีกเพียง 3 นัดเท่านั้น แถมจะมีช่วงพักหนึ่งสัปดาห์ในแต่ละเกมด้วย โดยเกมนัดต่อไปจะบุกไปเยือน Leicester ซึ่งพวกเขาเอาชนะในบ้านได้อย่างหวุดหวิด Liverpool มีจุดน่าห่วงอยู่ตรงที่การเล่นเกมเยือนเสียด้วย เพราะออกไปเยือน 17 เกมในลีกชนะได้เพียง 5 นัดเท่านั้น
แต่เกมที่ยากเปิดบ้านเจอกับ Aston Villa ในวันที่ 20 พ.ค.นี้ เพราะนัดปิดฤดูกาลจะออกไปเยือนเจอกับ Southampton ในวันที่ 28 พ.ค.นี้ ซึ่งถึงตอนนั้นเจ้าบ้านก็อาจจะตกชั้นไปแล้วก็เป็นได้
Liverpool เพียงรักษามาตรฐานเก็บชัยชนะในนัดที่เหลือเพื่อสร้างความกดดันให้ Man Utd มากที่สุดเป็นพอ
อัตราความยาก 4/10
Spurs
“ไก่เดือยทอง” มีปัญหามากมายเกิดขึ้นเกือบตลอดฤดูกาล ปัจจุบันพวกเขาอยู่อันดับ 6 มี 57 แต้มตามหลังทีมอันดับ 4 อยู่ 6 แต้มแถมแข่งมากกว่า “ผีแดง” 1 นัด
ตามโปรแกรมแล้ว Spurs ก็ไม่ได้เจอกับทีมที่ยากเกินไปนัก แต่เกมไปเยือน Villa Park เจอกับ Aston Villa และการเปิดบ้านเจอกับ Brentford อาจจะเป็นเกมวัดดวงว่าดีพอจะจบท็อปโฟร์หรือไม่
คะแนนความยาก 6/10
Brighton
ในบรรดาทีมที่มีลุ้นท็อปโฟร์นั้น Brighton ลงเล่นเกมน้อยที่สุดเพราะเพิ่งเตะไป 33 นัดมี 55 แต้มอยู่ในอันดับ 7 ทำให้อะไรก็สามารถเกิดขึ้นได้ทั้งนั้น
งานหนักของพวกเขาก็คือเกมไปเยือน Arsenal ในวันอาทิตย์ที่ 14 พ.ค. และ 24 พ.ค.เปิดบ้านเจอกับ Man City แถมยังต้องไปเยือนทั้ง Aston Villa และ Newcastle เข้าอีก ถือว่าเป็นโปรแกรมสุดหินเอามากๆ
อัตราความยาก 8/10